สำหรับเพื่อนๆหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี คนทำเพลง หรืออยากทำ อยากเรียน อยากเล่น วะ! เยอะแยะจัง อิอิ เมื่อแรกก้าวเข้าสู่ถนนสายนี้ จุดศูนย์รวมก็จะไปอยู่ที่การที่จะต้องบันทึกเสียง การผสมเสียง ก็ว่ากันไปตามลำดับไป
เมื่อได้ลงไม้ลงมืออย่างจิงจัง ทุกคนก็ต้องมาตั้งคำถามว่า "จำเป็นไหมที่ผมต้องซื้อ Mixer?" ไม่บ้างก็ถามว่า "ช่วยแนะนำ Mixer ให้หน่อยครับ กำลังหัดทำเพลง?" และอีกหลายหลากคำถามสารพัดที่ถาโถมเข้าใส่กระทู้ต่างๆในบอร์ดต่างๆที่เกี่ยวข้อง เป็นว่าต้องเห็น หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยผ่านตากับคำถามเหล่านี้ เอ๊ะ! หรือว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งคำถามนี้ ฮิ้วววววว!
ก็เอาเป็นว่ามาดูกันว่า Mixer มีความจำเป็นมากน้อยขนาดไหนในการทำเพลงโดยเฉพาะที่เราเรียกว่า Computer Music หรือ Project Studio ก็สุดแท้แต่จะเรียกนะครับ แต่สรุปคือ นั่งทำเพลง นั่งประพันธ์เพลงกับบ้านนั่นแหล่ะครับ
ในความเป็นจริงแล้วการเรียบเรียงดนตรียุคนี้ส่วนใหญ่แล้วนั้นมักจะนั่งทำอยู่กับบ้าน ดังนั้นเสียงเครื่องดนตรีส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสียงสังเคราะห์ซะมากกว่าการบันทึกเสียงจริงๆ ส่วนมากที่เจอบันทึกกันจริงๆก็จะมีแค่ ร้อง, กีต้าร์, กีต้าร์เบส เป็นหลักเท่านั้นเอง ซึ่งการบันทึกเสียงในลักษณะนี้จะเป็นการบันทึกแบบ Multi track Recording หรือการบันทึกแบบหลายร่องเสียง ซึ่งการบันทึกแบบนี้จะอาศัยการบันทึกทีละชิ้นดนตรี หรือทีละ Track ครับ ซึ่งจะทำให้การทำงานสะดวก และคล่องตัวมากกว่า
ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วหล่ะก็ Mixer ไม่มีความจำเป็นเลย (สำหรับ Project Studio) เพราะเราบันทึกเสียงที่ละ Track หรือชิ้นดนตรี อีกจุดคือส่วนใหญ่เพื่อนๆ น้องๆ ที่เพิ่งเริ่มศึกษาตรงนี้มักมองเพียงแต่ว่าการบันทึกเสียงต้องอาศัย Mixer ครับ! ใช่! แต่นั่นหมายความว่าหากมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกพร้อมกันทีละหลายๆ Track หรือชิ้นดนตรี เข่นการบันทึกกลองสดทั้งชุดกลองเป็นต้น
อีกเหตุผลประการหนึ่งคือสำหรับผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่แล้วนั้นงบประมาณมักจะมีความจำเป็น หรือจำกัด จำเขี่ย (เขี่ยทำไม?) อาจวาง งบ ไว้แถว 5-6 พันบาท สำหรับ Mixer ที่มี 4-10 Ch แต่รู้ไหมครับว่า เมื่อดูจากการทำงานแล้วเปลี่ยบเทียบเชิงปริมาณต่อคุณภาพ 5 พันบาท ได้ปรี ถึง 10 Ch กับ 5พันบาท แล้วไปซื้อ MIC Preamp ดีๆในราคานี้เพียง Ch เดียว คุณภาพเสียงที่ได้ จาก MIC Preamp นั่นกลับให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่ามากทีเดียว
สรุปก่อนซื้อ Mixer ซักตัวคงต้องมองดูว่าเรามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดในการใช้งาน เพราะของพวกนี้ซื้อแล้วขายต่อเสียราคา และขายยากในบางตัว ดังนั้นหากต้องการคุณภาพมากกว่าปริมาณ คงต้องนั่งคิดแล้วหล่ะครับว่าจะซื้ออะไรดี? Mixer ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของคุณภาพเสียงอย่างที่หลายๆคนคิดครับ