ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะเพลงของเพื่อนๆอาจจะคนละแนวเพลงกัน ถึงแม้ว่าแนวเดียวกัน แต่ระหว่างกลองสดกับแซมป์ก็ต่างกันแล้วครับในการ Process แม้ว่าจะกลองสดด้วยกันทั้งคู่ ก็ต่างกันที่ห้องที่ใช้อัด ไมค์ที่ใช้ และปัจจัยอีกเยอะๆครับ ดังนั้นจะนำค่าต่างๆไปใส่ "เป๊ะๆ" คงยากครับ แต่สามารถนำแนวคิดไปใช้ได้ อย่างตอนที่แล้วผม Cut ย่านกลางของ Kick แถวๆ 500Hz ก็เพราะกลองไม่ชัดครับ แต่ถ้าของเพื่อนๆชัดอยู่แล้วก็ไม่ต้อง อย่างนี้เป็นต้นครับ
เอาหล่ะมาต่อกันดีกว่า สำหรับวันนี้ผมจะมาจัดสรรค์ปั้นแต่ง track ต่อมาของชุดกลองนั่นก็คือ SD หรือ Snare Drum หรือ Snare นั่นเองครับ สำหรับ SD ผมขอเรียกย่อๆอย่างนี้นะครับ สำหรับเพลงนี้นั้นชุดกลอง SD จะมีสองตัวคือ Snare ที่เป็นกลองจริง กับ Snare ที่เป็นแซมป์ (ดูรูปด้านล่าง) หรือในรูปในหน้า mix ที่เราเห็นนั่นก็คือ Snare-electronic ดังนั้นความสมบูรณ์ของ track snare ก็จะต้องใช้ทั้งสอง track ซึ่งก็จะเหมือนกันกับเส้นร้องที่มีสองเส้นนั่นเอง ดังนั้นสัญญาณรวมของ SD ที่ผมตั้งใจไว้หลังจากที่ผ่านการ Process แล้วก็คือ ให้ดังเท่ากับ vocal ที่รวมกัน และเท่ากับเส้น kick นั่นเอง ก็คืออยู่ที่ -6db แต่สำหรับ SD ที่เป็นกลองสดนี้ผมจะตั้งไว้ที่ -10db เท่านั้น แล้วพอได้สัญญาณ SD electronic มารวม ก็จะดังขึ้นมาจนเท่ากับ -6db นั่นเอง ตรงนี้งง? ไหมครับ ไม่งง?นะ ถ้างั้นผ่านถ้างง? ถามไว้ในคอมเม้นท์ครับ
จากรูปด้านบนจะเห็นว่าผม Pan กลองไปทางขวา แต่ไม่มากนัก ถามว่าทำไมทั้งนี้ก็เพราะว่าผมอาศัย Overheads และ Room ทั้ง 2 track นี้เป็นตัวกำหนดทิศทาง ซึ่งแต่ละเพลงอาจแตกต่างกันไป และที่สำคัญที่สุดด้วยการเป็นกลองสด ผมก็จะเช็คการเฟส ของสัญญาณเสียง ว่ามันไม่หักล้างกัน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นเสียงกลองก็จะหาย หรือเบาลงมาก ส่วน Level นั้นอย่าไปสนใจนะครับ เพราะ source ที่มานั้นมันดังเบาไม่เท่ากัน แต่อัตราส่วนที่ผมผสมกันก็คือ 70 : 30 ครับ แต่ตอนนี้ผมอยากให้ดูเฉพาะที่ track SD ก่อนครับ
สำหรับ Track นี้ผมก็ไม่ได้เน้นอะไรมาก เพราะ source ที่ได้มาก็ถือว่า Sound ของ SD นั้นน่าฟังอยู่แล้วดังนั้นก็ไม่ควรบิดเบือน source ที่ engineer เค้าอุตสาห์วางไมค์และบันทึกมาครับ ดังนั้น ผมจึงใช้ Plugin เพียงสองตัวเท่านั้นสำหรับ Track นี้ตามรูปด้านล่างครับ
สำหรับ Plugin ที่ใช้คือ Waves LA3A ซึ่ง Compress ตัวนี้ลักษณะจะเป็น Solid (ตัวเป็นๆนะครับ ตัวที่ผมใช้ก็จะเป็นโค้ดคำสั่ง แต่เค้าก็พยายามจำลองมาแหล่ะครับ) ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องการและเลือกใช้ Compress ตัวนี้ก็เพราะมันจะให้ลักษณะเสียงที่เป็นแบบโปร่งโล่ง หรือโปร่งใสสูง ที่เรียกว่า highly transparent นั่นเองครับ แต่ผมก็ไม่ได้คอมเพลสมากมาย ผมเพียงแค่ต้องการคุม Dynamic เท่านั้นเองครับ รูปชัดๆด้านล่างเลยครับ
เมื่อผม Compress เป็นที่เรียบร้อย แน่นอนครับว่า อะไรที่เบามันก็โดนยกขึ้นมา อะไรที่ดังกว่าที่กำหนดมันก็โดนกดลงไป หรือสรุปง่ายๆก็คือ สิ่งที่ไม่ต้องการมันก็จะดังขึ้นมาด้วยนั่นเอง ผมก็ตามมาด้วย EQ เพื่อแก้ไขสิ่งนี้ เพื่อให้ได้ SD อย่างที่ผมต้องการ ซึ่งผมก็ใช้ EQ ที่มากับ Logic นั่นเองครับ ดังรูปด้านล่าง
ในส่วนของ EQ นั้น ผม Low cut ย่าน 192Hz ลงไปเพื่อไม่ให้ย่านต่ำของ SD นี้ไปกวนกับ เสียงของ Kick และ Bass ที่จะตามมา เพราะผมยังไม่ได้พูดถึง Bass อาจดูเหมือนว่าผม cut ไปเยอะ แต่แท้ที่จริงแล้ว SD ตัวนี้เนื้อหนามาก จึงไม่สงผลหรือทำให้ SD บางแต่อย่างไร แล้วผมก็ cut ที่ 530Hz ลงไป -3db เพื่อหลบให้กับร้องเล็กน้อย และทำให้ SD ชัดขึ้น จากนั้นผมก็เพิ่มหัวไม้อีกเล็กน้อยที่ย่าน 3.6KHz โดย boot ขึ้นไป 1.5db
ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ผมได้เสียง SD และน้ำหนักตามที่ผมต้องการ แล้วผมก็ตั้ง Level อย่างที่บอกไว้ครับว่า ผมอยากให้อยู่ที่ -6db แต่เนื่องจากเดี๋ยวจะมี SD electronic อีกตัวเข้ามา Blend หรือผสมกัน ดังนั้นผมก็ลดลงมาไว้เล็กน้อยให้อยู่ที่ -10db เท่านี้ผมก็จะได้ทุกอย่างที่ต้องการ
จบอีกตอนแล้วนะครับ สำหรับบทความ Mix / Master เป็นยังไงกันบ้างครับถ้าไวไปก็บอกผมนะครับ อยากให้ไปพร้อมๆกัน มือเก่า หรือคนเคย Mix มาเยอะๆก็คงง่ายหน่อย แต่มือใหม่ๆก็อ่านซ้ำๆละกันนะครับ สุดท้ายสำหรับวันนี้ผมก็ยังย้ำนะครับว่า อย่าปรับตามผม เอาเป็นแค่ไกด์ และเอาเป็นแค่แนวทาง แต่สำคัญเหนืออื่นใดคือแนวคิดเท่านั้นครับ สำหรับวันนี้ ไปแล้วครับ ซา หวัด เด
บทความย้อนหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น