02 พฤศจิกายน 2554

Mix / Master ตอนที่ 3

     มาถึงตอนที่สามแล้วนะครับ สำหรับตอนที่สามนี้ผมว่าใครหลายคนรอคอย หรือไม่มีหว่าาาา ห้าาาา เอาเป็นว่าตอนนี้ที่สามนี้ก็มาถึงส่วนของ ริทึ่มหลัก นั่นคือมาในส่วนของกลอง หรือชุดกลองครับ

     หลังจากที่ผมได้เส้นร้องหลักอย่างที่ผมต้องการแล้ว ผมก็จะมาขึ้นเส้นกลอง ผมขอเรียกอย่างนี้นะครับ กล่าวคือมาทำกลองละ ซึ่งก็คือทั้งชุด เพื่อให้ได้ริทึ่มเหนียวแน่นอย่างที่ผมต้องการ ให้ได้ซาวด์กลองใหญ่ ได้ยินหนังกลองโดยเฉพาะกระเดื่อง กระเพื่อม พรึบพรับ อย่างใจ ซึ่งก็จะทำให้ซาวด์กลองชุดนี้ ฟังดูมีพลัง คนตีมีน้ำหนัก แลดูแข็งแรง

     สำหรับกลองชุดนี้ประกอบไปด้วย track อะไรบ้างให้ดูรูปประกอบด้านล่างประกอบครับ ซึ่งทั้งหมดที่ผมจะบอกคือสิ่งที่ผมได้ทำเสร็จแล้วนะครับ ส่วนรายละเอียดเดี๋ยวค่อยว่ากันไปเป็นส่วนๆไป




     สำหรับ track กลองนี้ทั้งหมดจะมีด้วยกันทั้งหมด 10 track ซึ่งเป็น source ด้วยกันทั้งหมด 8 track และเป็น  bus ที่ผมสร้างขึ้นมา 2 track ซึ่ง source นั้นก็จะประกอบไปด้วย kick, snare, snare-electronic, tom high, tom mid, tom low, overheads, drums room ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็น MONO ยกเว้นแต่ Overheads เท่านั้นที่เป็น Stereo ครับ 

     ส่วนอีก 2 track ที่เป็น bus นั้นประกอบไปด้วย Drum group ซึ่งผมส่งกลองทุก track นั้นมารวมกัน หรือมา Sum กันที่ bus นี้ เพื่อที่ผมจะได้คอนโทลเสียง หรือความดังของกลองทั้งชุดได้จาก bus นี้ หรือ fader นี้เพียงอันเดียว เช่นผมต้องการเสียงกลองทั้งชุดดัง ก็ดันเฟดเดอร์นี้ หรือลดเฟดเดอร์นี้ ถ้าต้องการกลองทั้งชุดที่เบา ส่วนอีกหนึ่ง bus นั้น เป็นเทคนิคการทำ Parallel compression ให้กับกลองชุดนี้ครับ เพื่อให้กลองชุดนี้รู้สึกใหญ่ แน่น และมีพลัง ซึ่งทั้งหมดเดี๋ยวเราค่อยว่ากัน

     ตอนนี้เรามาเริ่มต้นที่ส่วนแรกของกลอง ซึ่งผมต้องการจัดการก่อน นั่นก็คือกระเดื่อง หรือ kick บางคนก็สั้นๆว่า kik ก็ไม่ผิดกระไร อ้อ bass drum ได้อีกอย่าง

     ในส่วนของ kick นั้นผมใช้ Plugin ด้วยกันสองตัวนั่นคือ Focusrite Liquidmix กับ Waves C1 Gate ครับ ซึ่งใน Liquid นั้นประกอบไปด้วย Processor สองตัวด้วยกันที่ผมใช้คือ Compressor และ EQ ซึ่งผมสามารถเลือกได้ใน Plugin ตัวนี้ว่าจะใช้อะไร สำหรับ kick นั้นผมเลือกใช้ทั้งสองตัวเลย ทั้ง Compress และ EQ ซึ่งหากเพื่อนๆไม่มี ก็จะใช้ Plug ตัวไหนก็ได้นะครับ


     ส่วน Chain ที่ผมทำก็คือ ทำการ Comp ก่อน แล้วค่อยไป EQ ด้วยเหตุผลคือควบคุม Dynamic ให้ได้อย่างที่ต้องการครับ แล้วจึงทำการ EQ เพื่อกำหนดความถี่เสียง หรือแก้ไขปัญหาของเสียง เพื่อให้ได้เสียงอย่างที่ต้องการ แล้วจึงค่อยไปทำการ ตัด Gate อีกครั้ง ทำไมต้องเกตครับ เหตุก็เพราะว่าเพลงนี้อัดสดมาแล้วใน Kick ก็มี Snare ติดมาด้วย แต่เนื่องจาก Engineer เก่งมาก เลยทำให้รั่วมาน้อยไม่มากนัก ดังนั้นตัดด้วย Gate เสียง Snare ก็จะหายไปเหลือแต่เพียงเสียงกระเดื่องอย่างเดียว

     ในส่วนของ Focusrite Liquidmix นั้นผมเลือกที่จะใช้การจำลองของอุปกรณ์สองตัวอย่างที่กล่าวไว้คือ Compress และ EQ โดยผมเลือกใช้ Comp ที่เป็นของ Teletronic LA2A อย่างที่กล่าวไว้คือเพื่อคุม Dynamic โดยที่ยังคงความเป็นธรรมชาติเสียงไว้ให้มากหน่อย ด้วยการกด Threshold ไม่มากนักเพียงเพื่อคุม และจึงตามด้วย EQ ซึ่งจำลองมาจาก Chandler EMI Passive เพื่อปั้นโทนให้กระเดื่อง โดยผมยก Hi Shelf ที่ 16KHz ขึ้น 2db เพื่อเติมหัวให้กระเดื่อง แล้วตัดย่านกลางหรือ Mid Cut ที่ย่าน 500Hz ลง -2db เพื่อลดย่านที่ทำให้กลองไม่ชัด แล้วก็ Low Cut ที่ 30Hz ลงเพื่อลดย่านต่ำลึก ให้เชฟฟังดี

     สำหรับค่าต่างๆที่ผมปรับ ไม่ควรปรับตามนะครับ เพียงแต่เป็นแนวคิดและไกด์ไลน์ เหตุเพราะว่า Comp และ EQ แต่ละตัวให้ผลที่ต่างกัน ขนาด Liquidmix เหมือนกัน แต่เลือกการจำลองที่ต่างกัน ถึงปรับเหมือนกัน ยังให้เสียงต่างกันเลยครับ


     เมื่อได้เสียงตามที่ต้องการแล้ว ผมก็ตัด Gate เพื่อเอาเสียง Snare ออกอย่างที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นครับ ดังตัวอย่างรูปในด้านล่าง แต่สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติมด้วยก็คือความคมชัดของ kick ที่มากขึ้นเพราะว่าผมควบคุมหางของ kick ไปด้วยในเวลาเดียวกัน นี่ก็ถือเป็นอันจบแล้วครับ สำหรับ track kick


      เพียงเท่านี้ผมก็จะได้เสียง track kick อย่างที่ใจต้องการ แล้วก็ตั้ง Output ของ track kick นี้ไปที่ Drum Group เพื่อไปรวมสัญญาณเสียงกลองที่นั่นอีกครั้งนึง ส่วนค่าความดังหรือ Level ของ Kick นั้นในการเริ่มต้นสำหรับเพลงแนวนี้ ผมจะตั้งสัญญาณไว้เท่ากันกับเสียงร้องครับ ซึ่งหากเพื่อนๆตามมาตั้งแต่ตอนแรก ก็จะทราบว่าผมตั้ง Level ร้อง บวกกับ ร้องที่ดัพไว้รวมกันที่ -6db ดังนั้น กระเดื่องผมก็จะขึ้น mix ให้ได้สัญญาณที่เท่ากันคือ -6db เช่นกันครับ

     สำหรับวันนี้หวังว่าเพื่อนๆคงได้อะไรไปบ้างนะครับ ผมก็ว่าไปตามแนวคิดในการผสมเสียงเพื่อให้ได้เสียงอย่างที่ผมต้องการ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากให้เพื่อนๆเห็นก็คือ ผมคิดอะไร เลือกใช้อะไร นั่นหมายความว่าเราต้องมีความเข้าใจในเครื่องมือที่เราต้องการใช้ ถ้าเราเข้าใจ การหยิบใช้ก็ง่ายขึ้น เหมือนเรารู้เส้นทางวิ่งของถนน เราก็จะเลือกใช้ประเภทของรถได้ถูกต้องครับ สำหรับวันนี้ไปแล้วนะครับ สวัสดี

ปล. เพื่อนๆสงสัยอะไรอย่างไร ตอนไหน ก็ถามทิ้งไว้ในคอมเม้นท์ได้นะครับ ผมจะมาตอบ หรือโทรมาถามถ้ายังพอมีกะตังกันอยู่ในเครื่องมือถือก็ 080 999 8737



บทความย้อนหลัง

ไม่มีความคิดเห็น: