01 พฤศจิกายน 2554

Mix / Master ตอนที่ 2

     มาถึงตอนที่สองแล้วนะครับ สำหรับเรื่อง Mix / Master อันเนื่องมาจากเพลงที่ผมได้ Mix ไว้ หากเพื่อนๆยังไม่ได้อ่านตอนแรก ก็ย้อนไปอ่านได้ก่อนเลยครับ จะได้ตามๆกันไป โดยทำ Link ไว้ที่ด้านล่างของบทความนี้แล้วครับ

     ในตอนที่ 2 นี้นั้นผมจะมาพูดถึง Track ที่สองของเพลงนี้ ซึ่งก็เป็น Track ที่เป็น Vocal Dub ที่ได้ทำการบันทึก Dub ไว้ เหตุผลก็เพื่อไว้ช่วยร้องหลัก ให้รู้สึกสู้กับภาคดนตรีได้ เวลาที่ดนตรีมาเต็มๆวง โดยเฉพาะในท่อนบริดจ์ และฮุก ในเพลงนี้ ซึ่งก็คือในรูปด้านล่างนี้ครับ



     หากสังเกตุจากเส้นร้องนี้ เปรียบเทียบกับ Track ที่เป็นร้องหลักแล้ว (รวมถึงฟัง) จะเห็นว่า Track ที่เป็น Vocal Dub นี้จะยังคง Dynamic ที่มากกว่า กล่าวคือตอนที่บันทึกเสียงนั้น ไม่ได้มีการคอมเพลสที่มากนักนั่นเอง

     จาก Track ร้องหลักที่ได้เตรียมไว้แล้วนั้น เป็น Track ที่พร้อมแล้วที่จะนำไปใช้งาน แต่ด้วยเพลงที่ร้องในลักษณะนี้เมื่อถึงท่อนบริดจ์และฮุก การร้องด้วยเสียงสูง จะทำให้เส้นร้องรู้สึกว่าบาง หรือเล็ก ดังนั้นก็เลยมีการ Dub ในร้องนี้

     สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้ก็คือทำการควบคุม Dynamic ให้ค่อนข้างคงที และให้ได้โทนที่ดีมีความรู้สึกว่าหนากว่าของร้องหลัก เมื่อได้ตามที่เราต้องการแล้ว ผมก็จะนำเส้นร้องที่สองนี้ ไปผสมกับเส้นร้องหลักนั่นเอง ด้วยอัตราส่วนตามความเหมาะสมโดยต้องอาศัยการฟัง และการตัดสินใจครับ ดังนั้นผมจึงใช้ Plugin เพียงตัวเดียว ใน Track นี้ นั่นคือ Waves SSL เช่นเดียวกันกับ Track ร้องหลักที่แล้ว ดังรูปด้านล่าง


     ทำไมต้องเป็น Plugin ตัวนี้ เหตุผลง่ายมากครับ ผมต้องการได้คาแร็คเตอร์ของ SSL นั่นเองครับ และสิ่งที่ได้ทำการ Adjust กับ Parameter ต่างๆใน Plugin นี้ก็คือ EQ ซึ่งก็ปรับค่าเท่ากับ Vocal Track หรือร้องหลัก ที่อยู่ในบทความ Mix / Master ตอน 1 นั่นเองครับ

     แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือในส่วนของ Compressor ใน Track นี้อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าผมต้องการคุม Dynamic ของ Track นี้ก็เลยใช้อัตราส่วนของ Ratio ที่มากกว่า ด้วยอัตราส่วน 5:1 เพื่อให้เส้นร้องนี้ค่อนข้างนิ่ง แต่สิ่งที่ต่างกันจาก Track ที่แล้วก็คือ ผมไม่ได้คอมฯ ซ้ำ และไม่ใช้ EQ ตามหลัง ดังนั้นจะทำให้เกิด Hamonic ที่เกิดขึ้น ทำให้เสียงหนา อุ่นขึ้น

Parameter Vocal Dub Track


     หลังจากที่เราได้เสียงที่เราต้องการแล้ว ผมก็จะทำการปรับค่า Fader ของ Track ที่สองนี้นำไปผสมกับ Track ที่เป็นร้องหลัก โดยให้ทั้งสองสัญญาณเสียงนี้เมื่อรวมกันแล้ว จุดที่ Peak ที่สุดจะไม่เกิน -6db นี่คือสิ่งที่ผมต้องการ และสิ่งที่จะตามมาก็คือ มันทำให้เสียงร้องแข็งแรงขึ้น สามารถสู้กับเสียงดนตรีที่หนักๆได้ ที่รูปด้านล่างจะชี้ให้เห็นถึงอัตตราส่วนของการผสมกันของทั้งสอง Track โดยที่ Track นี้จะเบากว่าร้องหลักนั่นเองครับ เพื่อที่เราจะเอา Track นี้คอยหนุนตูด ให้กับเสียงร้องหลักนั่นเอง


     และนี่แหล่ะครับแนวคิดที่ผมทำกับ Tack Vocal Dub นี้ ซึ่งใน Track ในรูปที่เห็นก็คือ vox-lead-dub นั่นเองครับ เอาหล่ะครับวันคงจบเพียงเท่านี้ เท่านี้ผมก็ได้ร้องที่ผมต้องการแล้ว ส่วนเรื่องของ Bus Sends ต่างๆของทั้งร้อง และ ร้องดัพ ผมขอข้ามไปก่อนนะครับ เรามาว่ากันแต่เรื่องการจัดการ Track ก่อนครับ สำหรับวันนี้ไปก่อน สวัสดีครับ

บทความ

ไม่มีความคิดเห็น: