23 พฤศจิกายน 2552

ความดังที่เงียบสงัด



ตั้งชื่อให้มันซะอย่างนั้นแหล่ะครับ พอดีนึกขึ้นมาได้มีเรื่องบางเรื่องอยากคุยอยากเล่าสั้นๆ ในเรื่องของความดัง ไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทองนะครับ แต่ผมหมายถึง Level ของงาน ที่หลายต่อหลายคนพยายามเหลือเกินในการทำงานตัวเองออกมาให้ดัง ดัง ดัง ดังมันสุดๆ แต่ ผลสุดท้ายหล่ะครับ

ที่นึกอย่างนี้ได้เพราะผมได้มีโอกาสซื้อแผ่นซีดีแผ่นนึงมา อ้อ ซีดีเพลงครับ เจ้าประคุณมันดังมาก ดังกว่าแผ่นอื่นๆต้องบอกว่า อย่างมากมายมหาศาล ที่กล้าพูดอย่างนี้เหตุเพราะว่าทุกแผ่นที่ใส่อยู่ในถาดมันดังใกล้ๆกันหมดครับ อาจมีดังบ้าง เบาบ้างก็ต่างกันไป แต่แผ่นนี้ (ไม่ขอบอกนะครับ) มันดังซะอู้หูเหะ

แต่แล้วอย่างไรครับ Hi จัดมาก Low ก็บาง เนื้อไม่มี กระเดื่อง สแนร์ ในจังหว่ะ Peak ของเพลงมันน่าจะเร้าใจ น่าจะมาครบ มันหายเลี่ยมเร้เรไรครับ เสียงกลองกลายเป็นเสียงกระพรือแผ่นกระดาษ อาจมีคนชอบนะครับ แต่ผมคนหนึ่งไม่ชอบแน่ แล้วผลเหรอครับ แน่นอน "ผมเปลี่ยนแผ่น ไม่ฟังอีกต่อไป"

ที่ออกมาบ่นให้ฟังไม่ใช่จะมาตำหนิงานเค้านะครับ แต่ผมรับรู้ และรู้สึกว่า การฟังเพลงน่าจะเป็นการฟังจากคุณภาพเสียง อารมย์เพลง ซึ่งก็มีเรื่องเสียงเค้ามาเป็นสื่อนำ ดังนั้นความเหมาะสมเสียมากกว่าครับที่เป็นตัวกำหนดงาน ไม่ใช่ความดังเป็นตัวกำหนดงาน



เจอมาบ่อยเหมือนกันที่มีคนบอกว่า "งานนี้ mastering มาไม่ดีเท่าไหร่?" ผมก็ถามหาเหตุผลว่าทำไม คำตอบที่ได้คือ "เค้าทำไม่ดังเท่า....?" อะไรทำนองนี้ โอ้ว! แม่เจ้างานที่ดีวัดกันที่ความดังของเสียงเท่านั้นหรือ เออ ก็ดีนะ ผมคิด อีกหน่อยวิทยุคงไม่ต้องมี Volume ครับเพราะทุกแผ่นดังเท่ากันหมด

และนั่นก็เลยเป็นสาเหตุให้ผมไม่ฟังเพลงในแผ่นนั้นอีกต่อไปเลย และนี่คือความดังที่เงียบสงัด แล้วผมกำลังจะถามคุณ และถามตัวผมเองว่า "จะมีประโยชน์อะไรถ้าเพลงของคุณเสียงดังกว่าเพื่อน แต่ไม่มีใครเปิดงานของคุณขึ้นมาฟัง..!" และสุดท้ายที่สุดผลกระทบก็น่าจะเกิดกับผู้ทำงาน และผู้เสพงาน และนี่อาจเป็นปัญหาใหม่เพราะคนรุ่นใหม่นำงานเหล่านี้ไปฟังไปเป็นต้นแบบ แล้วคิดดูซิครับว่าคุณภาพของงานเพลงต่อไปจะเป็นเช่นไร สุดท้ายขอความสุขในเสียงเพลงจงมีกับทุกคน สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น: